ไม้เท้าที่รู้ทาง

ทั่วโลกมีประชากรอย่างน้อย 2,200 ล้านคนที่มีปัญหาทางสายตารูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง [1] ผู้ที่มีปัญหาทางสายตาเหล่านี้ต้องเผชิญกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางหรือการหาช่องทางเพื่อผ่านพ้นสภาพแวดล้อมที่ตนเองไม่คุ้นเคย เครื่องมือช่วยเหลือแบบดั้งเดิมอย่างไม้เท้ามักจะใช้ไม่ได้ผลและให้ความช่วยเหลือได้อย่างจำกัด

รามนีคสำเร็จการศึกษาสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์โดยได้อันดับหนึ่ง เธอใฝ่ฝันที่จะเป็นวิศวกรออกแบบ เธอต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายตลอดเส้นทางการเรียนรู้ในสาขา STEM ของเธอเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่มีความบกพร่องทางสายตา แต่ความสามารถในการปรับตัวและความมุ่งมั่นของเธอไม่เพียงช่วยให้เธอเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ได้เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอรังสรรค์แนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนอื่นๆ ที่เผชิญกับความยากลำบากในลักษณะที่คล้ายคลึงกับเธออีกด้วย

เหนือกว่าไม้เท้านำทาง

สิ่งประดิษฐ์ของรามนีคมีชื่อว่าไม้เท้า MyVision ซึ่งมีความโดดเด่นในแง่ของอุปกรณ์ช่วยนำทางที่มีความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี โดยการผสานเทคโนโลยี AI, LiDAR และ GPS เข้าด้วยกันเพื่อช่วยทำให้การนำทางทำได้ดีขึ้นสำหรับผู้พิการทางสายตา ซึ่งแตกต่างจากไม้เท้านำทางแบบดั้งเดิม ไม้เท้า MyVision นำเสนอการพัฒนาแบบก้าวกระโดดที่มีนัยยะสำคัญในแง่ของความเป็นอิสระและความปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาเส้นทางในสภาพแวดล้อมรอบตัวได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

ความทุ่มเทของรามนีคที่มีต่อชุมชนผู้พิการทางสายตาไม่ได้หยุดอยู่แค่สิ่งประดิษฐ์ของเธอเท่านั้น เธอมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาและอาชีพของเหล่าผู้พิการทางสายตาด้วย เธอทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ อาทิเช่น All-Party Parliamentary Group และ Thomas Pocklington Trust การมีส่วนร่วม และงานอาสาสมัครของเธอทำให้เธอเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้เพื่อโอกาสที่เท่าเทียมกัน และการส่งเสริมผู้พิการทางสายตาไปพร้อมๆ กันด้วย

เจสซี ซูฮยอน ปาร์ค หัวหน้าแผนกความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรของบริษัท Samsung Electronics UK กล่าวถึงผลงานของรามนีคและเป้าหมายของโครงการ Solve for Tomorrow ว่า “นวัตกรรมอย่างไม้เท้า MyVision ของรามนีคแสดงให้เห็นถึงการสร้างผลกระทบอันน่าทึ่งที่คนรุ่นใหม่ทำได้เมื่อได้รับโอกาสให้เข้ามารับมือกับความท้าทายในโลกแห่งความเป็นจริง โครงการนี้ของ Samsung ช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการจะไม่เพียงแต่พัฒนาแนวคิดใหม่ๆ เท่านั้น แต่ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้รับการสอนเพื่อสร้างความมั่นใจและทักษะต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการช่วยเหลือชุมชนของตนอีกด้วย การเห็นโครงการเหล่านี้มีพัฒนาการและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมมากมายเป็นการเน้นย้ำความมุ่งมั่นของเราที่จะพยายามส่งเสริมความสามารถของคนรุ่นใหม่และปรับปรุงโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง”

ก้าวสู่อนาคตที่สดใสกว่าเดิม

รามนีคฝันถึงโลกที่ผู้พิการทางสายตาสามารถเดินทางไปมาในสภาพแวดล้อมรอบตัวได้อย่างง่ายดายและมั่นใจ ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตโดยรวมของพวกเขาได้อย่างมาก เป้าหมายของเธอคือการทำให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างและส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มคนผู้ที่มักถูกสังคมมองข้ามความสำคัญ

จุดยืนของเธอเปรียบเสมือนประภาคารแห่งความหวังสำหรับผู้พิการทางสายตาเท่านั้น แถมยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักประดิษฐ์รุ่นใหม่ทั่วโลกอีกด้วย เรื่องราวของเธอเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของความพากเพียร นวัตกรรม และศรัทธาที่ไม่สั่นคลอนในศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตและโลกให้ดีขึ้น มาร่วมกันสนับสนุนวิสัยทัศน์ของรามนีคที่ต้องการช่วยเหลือผู้พิการทางสายตากันดีกว่า

[ข้อมูลอ้างอิง]

[1] WHO, Blindness and vision impairment