-
แสงส่องกรุยทางสู่โอกาส
สาดส่องทางสู่อนาคตที่สดใสกว่าเดิม
-
เสริมศักยภาพผู้ประกอบการรุ่นเยาว์
สร้างทักษะเป็นผู้ประกอบการและร่วมมือกับชุมชนเพื่อรับมือกับความท้าทายจริงในโลก
-
แปลงกากชาให้กลายเป็นโซลูชันที่ยั่งยืน
แผลงสภาพขยะในชีวิตประจำวันให้กลายเป็นโซลูชันอัจฉริยะ
แสงส่องกรุยทางสู่โอกาส
ในแวดวงเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักศึกษาจำนวนมากมักจะรู้สึกเต็มตื้นและหลงทาง พวกเขาไม่แน่ใจว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรสำหรับอนาคต ในขณะที่ Samsung Innovation Campus คือโครงการพลเมืององค์กรโกลบอลของ Samsung ที่มีเป้าหมายเพื่อเติมเต็มศักยภาพให้กับนักเรียนเหล่านี้โดยใช้ทักษะและองค์ความรู้ที่ทันสมัย
โครงการ Samsung Innovation Campus ในอินเดียจัดเตรียมสี่หลักสูตรหลักที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดงานในปัจจุบัน หลักสูตรดังกล่าวประกอยด้วย ปัญญาประดิษฐ์ (AI), Internet of Things (IoT), บิ๊กดาต้า รวมทั้งการเขียนโค้ดและโปรแกรม โครงการ Samsung Innovation Campus เน้นไปที่การลงมือปฏิบัติจริงที่ครบวงจรจนสามารถสร้างผลกระทบต่อชีวิตของนักศึกษาเหล่านี้อย่างแท้จริง
“ผมเคยไม่แน่ใจว่าจะไปประกอบอาชีพอะไรแน่ในอนาคต เหมือนกับนักเรียนอีกหลายๆ คน” ฮาร์ช ชานนา นักศึกษาที่ลงเรียนหลักสูตร IoT ของโครงการ Samsung Innovation Campus ในเดลีกล่าว “อาจารย์ของผมแนะนำให้ผมรู้จักโครงการ Samsung Innovation Campus จนทำให้ผมรู้ว่าจะไปประกอบอาชีพอะไรในอนาคต เรากำลังเรียนรู้เกี่ยวกับระบบฝังตัวและแอปพลิเคชัน Raspberry Pi kits ที่เอาไปใช้งานจริงในเนื้อหาหลักสูตรล่าสุดที่อิงตามโอกาสการหางานทำในแวดวง IoT ที่กำลังบูม” เขาอธิบายเพิ่มเติม
เรื่องของฮาร์ชเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของโครงการ Samsung Innovation Campus ที่เหมือนแสงส่องทางนำนักศึกษาไปสู่อนาคตที่สดใส ผ่านการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมและประสบการณ์การทำงานจริง โครงการดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะทางเทคนิคของนักศึกษาเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าจะประกอบอาชีพอะไรอีกด้วย “โครงการนี้ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น ขอบคุณโครงการ Samsung Innovation Campus ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องเลือกเส้นอาชีพแบบไหน” ฮาร์ชเสริม
“เนื้อหาในหลักสูตรต่างๆ ของโครงการ Samsung Innovation Campus มีโครงสร้างที่เป็นระเบียบและสมบูรณ์พร้อม” พิยุทธ บักกา ผู้สอนของดครงการ Samsung Innovation Campus ในเดลีกล่าว “หลังจากเรียนหลักสูตร Internet of Things แล้ว เหล่านักศึกษาจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบฝังตัวเพื่อนำไปออกแบบระบบได้ดีขึ้น รวมทั้งเตรียมพร้อมสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ได้ดีขึ้น” เขากล่าวเสริม
โครงการ Samsung Innovation Campus ไม่ใช่แค่โครงการด้านการศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเหล่านักประดิษฐ์แห่งอนาคตอีกด้วย โครงการนี้ปรับปรุงหลักสูตรอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีและแนวทางธุรกิจล่าสุด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สร้างความมั่นใจว่านักศึกษาไม่เพียงแต่เตรียมพร้อมสำหรับปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังพร้อมที่จะเป็นผู้นำในอนาคตอีกด้วย Samsung อยากเห็นนักศึกษาจำนวนมากขึ้นค้นพบโอกาสและอนาคตที่สดใสกว่าเดิมของตนผ่านทางโครงการ Samsung Innovation Campus นี้
เสริมศักยภาพผู้ประกอบการรุ่นเยาว์
โครงการ Samsung Solve for Tomorrow เข้ามาสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักประดิษฐ์รุ่นใหม่ผ่านการมอบโอกาสมากมายที่ไม่เคยมีในห้องเรียน เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2024 ที่ผ่านมา นักเรียนมัธยมปลายสี่คนซึ่งเคยเข้าร่วมโครงการ Solve for Tomorrow จากทั่วสหรัฐอเมริกาได้รับเชิญให้เข้าร่วมเรียนหลักสูตร Summer Study ของ Babson College
โครงการนี้เปิดโอกาสให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปลายเข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการและพัฒนาความเป็นผู้นำไปพร้อมๆ กัน โครงการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนนำเอาทักษะ STEM ไปใช้กับกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ โดยเน้นไปที่ความร่วมมือกับชุมชน นักเรียนมีโอกาสลงมือแก้ปัญหาด้วยตนเองและพัฒนาความเป็นผู้นำไปพร้อมๆ กันด้วย เป้าหมายของโครงการคือการสร้างผลกระทบในเชิงบวกที่ยั่งยืนภายในชุมชนของตนเอง โดยพยายามขยายขอบเขตให้กว้างไกลกว่าความสำเร็จส่วนบุคคล
การเรียนหลักสูตร Summer Study ของ Babson College สอนให้นักเรียนใช้วิธีคิดแบบผู้ประกอบการเพื่อแก้ปัญหาจริงในโลก นักเรียนจะมีโอกาสเข้าเรียนเสมือนจริงที่ผสมผสานทฤษฎีเข้ากับกิจกรรมที่มีการลงมือปฏิบัติจริง ผ่านวิธีการ Entrepreneurial Thought and Action® ของ Babson นักเรียนจะมีโอกาสทำโครงการร่วมกันเป็นทีม ทำวิจัยภาคสนาม และพัฒนาระบบต้นแบบ ไปพร้อมกับรับมือกับความท้าทายระดับโลกต่างๆ อาทิเช่น ความท้าทายระดับโลกที่สหประชาชาติกำหนดไว้เป็นต้น
นักเรียนทั้งสี่คนที่ประกอบด้วย เอนนิอา เอนดริกา แอนโทนี เหยา ซิดดิ ซิงห์ และคาร์เมน มาร์ติเนซ พวกเขาร่วมกันพัฒนาระบบที่ชื่อ "SelfShelf" ขึ้นมา ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดเศษอาหารในร้านอาหารต่างๆ ในสหรัฐฯ การที่มีเศษอาหารหลายพันล้านตันเกิดขึ้นทุกปี ดังนั้นระบบ SelfShelf จะเข้ามาบริหารจัดการสินค้าคงคลังของร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทำส่งการแจ้งเตือนเกี่ยวกับระดับสต็อกของอาหารที่มีอยู่และวันหมดอายุไปให้ทราบ "ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าการวิจัยและการเตรียมการอย่างถี่ถ้วนมีความสำคัญเพียงใดเมื่อต้องพัฒนาโซลูชันออกมาเพื่อแก้ปัญหา" แอนโทนีกล่าว เขาย้ำว่าคุณค่าของโซลูชันนี้เกิดจากงานวิจัยเป็นหลัก
หลักสูตรของมหาวิทยาลัย Babson ไม่ได้เน้นแค่ทักษะทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเน้นไปที่การส่งเสริมความเป็นผู้นำ การสร้างสติปัญญาทางอารมณ์ และความยุติธรรมทางสังคมอีกด้วย เอนนิอากล่าวว่า “ตอนนี้มุมมองของฉันที่มีต่อการเป็นผู้ประกอบการคือการสร้างกิจการที่ไม่เพียงแต่สร้างผลกำไรเท่านั้น แต่ยังต้องเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาทางสังคมและสร้างคุณประโยชน์ที่จับต้องได้มาสู่ชุมชนของเราด้วย” ซิดดิเห็นด้วยกับมุมมองใหม่นี้โดยเล่าว่า “ผมเคยคิดว่าการเป็นผู้ประกอบการคือการเริ่มต้นทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าการเป็นผู้ประกอบการเกี่ยวกับการสร้างมรดกที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อชุมชนมากกว่า”
คาร์เมนเห็นด้วยกับเพื่อนๆ เธอกล่าวว่า “คำแนะนำของฉันสำหรับนักเรียนคนอื่นๆ ก็คือ เปิดใจและเตรียมตอบรับโอกาสที่ดูแล้วหายาก แม้ว่าคุณจะไม่แน่ใจก็ตาม โอกาสในลักษณะนี้อาจจะดูแล้วน่ากังวล เพราะคุณไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่จำไว้ว่าทุกคนก็รู้สึกแบบเดียวกัน” หลักสูตรนี้ช่วยให้นักเรียนแต่ละคนมีความมั่นใจมากขึ้นและสามารถรับมือกับความท้าทายได้ดีขึ้นโดยใช้ทัศนคติที่เป็นบวกเพื่อที่จะเติบโตและสร้างผลกระทบต่อไปในอนาคต
โครงการ Samsung Solve for Tomorrow ร่วมมือกับหลักสูตร Summer Study ของมหาวิทยาลัย Babson College มอบพื้นฐานที่แข็งแกร่งในแง่ของความเป็นผู้นำและทักษะการแก้ปัญหาให้กับนักเรียนเหล่านี้ หลักสูตรดังกล่าวช่วยให้พวกเด็กๆ สามารถนำทักษะ STEM ไปใช้รับมือกับความท้าทายจริงที่มีอยู่ในโลก จากนั้นพวกเขาจะสามารถสร้างความแตกต่างได้ “หลังจากจบหลักสูตรนี้ มุมมองของฉันที่มีต่อผู้ประกอบการก็กว้างขวางมากขึ้น” เอนนิอากล่าว “ตอนนี้ฉันมองว่าการเป็นผู้ประกอบการไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างผลกำไรเท่านั้น แต่เรายังสามารถแก้ปัญหาทางสังคมและมอบคุณประโยชน์ที่จับต้องได้ให้แก่ชุมชนของเราอีกด้วย”
แปลงกากชาให้กลายเป็นโซลูชันที่ยั่งยืน
ในไต้หวัน ร้านน้ำชาคือส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ผู้คนมักไม่ใส่ใจขยะในรูปของกากชาที่เกิดขึ้นจากร้านน้ำชาเหล่านี้ เคทและแคทเทอรีนนักเรียนมัธยมปลายสองคนจากไต้หวันแปลงความท้าทายในการแปลงขยะชาให้กลายเป็นโซลูชันที่สร้างสรรค์เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมจากการเข้าร่วมการแข่งขันของโครงการ Samsung Solve for Tomorrow
โครงการของพวกเธอมีชื่อว่า "เส้นทางสู่การรีไซเคิลกากชา" วิธีการก็คือนำใบชาที่ใช้แล้วแล้วมาทำเป็นแผ่นซับน้ำมัน ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการพึ่งพาน้ำสะอาด อย่าง กลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำและอุตสาหกรรมอาหารเป็นต้น ในกระบวนการนี้ช่วยให้พวกเขามีโอกาสพัฒนาทักษะอันมีค่าที่จะกรุยทางพวกเขาให้สามารถเผชิญกับความท้าทายอื่นๆ ในอนาคต
นักเรียนสองคนนี้มองว่าสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนมากที่สุดในการเดินทางครั้งนี้มาจากเวิร์กช็อปและเซสชันคำแนะนำจากครูพี่เลี้ยงของโครงการ Solve for Tomorrow Kate เด็กๆ เล่าให้ฟังว่า “ตอนที่ฉันสมัครเข้าร่วมโครงการ Solve for Tomorrow เป็นครั้งแรก ฉันมีโอกาสเลือกหัวข้อโครงการที่อยากจะทำโดยเริ่มจากการปกป้องสิ่งแวดล้อม การรีไซเคิล และการนำกลับมาใช้ใหม่ แต่ในระหว่างช่วงคำแนะนำจากครูพี่เลี้ยงเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ครูพี่เลี้ยงได้แนะนำให้ฉันทบทวนความคิดเสียใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และวิธีที่ฉันจะโน้มน้าวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเหล่านี้ให้สนับสนุนแนวคิดของฉัน” คำแนะนำนี้ทำให้แนวทางของพวกเด็กๆ กว้างขวางมากขึ้น โดยเปลี่ยนสภาพจากการเน้นไปที่สิ่งแวดล้อมไปสู่การเน้นไปที่การนำไปปฏิบัติจริงด้วย
แคทเทอรีนอธิบายเพิ่มเติมว่าหลักสูตรคำแนะนำจากครูพี่เลี้ยงออนไลน์ช่วยให้พวกเธอปรับปรุงข้อเสนอการทำโครงการของตนเองให้ดีขึ้นได้อย่างไร “ในอีกแง่มุมหนึ่ง หลักสูตรคำแนะนำจากครูพี่เลี้ยงออนไลน์ช่วยเราในการปรับแต่งให้ข้อเสนอของเราจนเสร็จสมบูรณ์ และช่วยให้เราตรวจสอบผลงานของเราเองจากแง่มุมที่ต่างออกไปจากเดิม และทำให้เราสามารถหลีกเลี่ยงจุดบอดใดๆ ที่มี หากเรามองสิ่งต่างๆ จากแง่มุมเดียว” หลักสูตรเหล่านี้เปิดใจพวกเธอให้มองวิธีแก้ปัญหาที่หลากหลายกว่าเดิม จากนั้นโครงการของพวกเธอจึงมั่นคงและครบวงจรมากขึ้น
หลังจากที่ทำงานหนักติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายเดือน โครงการของทีม KC ก็ได้รับการยอมรับในวงกว้างว่าสามารถแก้ไขปัญหาเล็กๆ ที่คนมองข้ามโดยใช้นวัตกรรมและการดำเนินการอย่างรอบคอบ คณะกรรมการผู้ตัดสินการแข่งขันรู้สึกประทับใจที่เหล่านักเรียนสามารถจำแนกปัญหาใกล้ตัว เสนอวิธีแก้ปัญหาที่ครอบคลุม และยังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนแปลงสภาพจนสามารถใช้งานจริงได้ขึ้นมา การยอมรับจะกรรมการตัดสินทำให้ทั้งนักเรียนและทีมงานมีความมั่นใจที่จะเชื่อมั่นในแนวคิดของตนและเชื่อมั่นในผลกระทบที่แนวคิดดังกล่าวสามารถมีต่อโลกได้
โครงการ “Solve for Tomorrow ไม่ใช่แค่การแข่งขันทางวิชาการเท่านั้น แต่ที่นี่คือการเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนมัธยมปลายให้สามารถคิดอย่างสร้างสรรค์และทำให้ความฝันของตนเป็นจริงขึ้นมาได้” ทิฟฟานี เฉิน หัวหน้าแผนกกลุ่มการตลาด ของ Samsung Electronics Taiwan กล่าว “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ร่วมเดินทางไปกับนักเรียนจำนวนมากทีละขั้นตอนตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยการสนับสนุนให้เด็กๆ เปลี่ยนสภภาพความคิดสร้างสรรค์ของตนเองจนกลายมาเป็นการกระทำเพื่อแก้ไขปัญหาในท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านแนวคิดเรื่องการสร้างความยั่งยืนของวัฒนธรรมชาอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไต้หวัน รวมถึงการปกป้องทรัพยากรทางทะเลอันทรงคุณค่า หรือการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุในสังคมผู้สูงอายุ เราเห็นแล้วว่าเด็กๆ เหล่านี้มีความห่วงใยสังคมอย่างลึกซึ้งและพวกเขามีศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดในการเปลี่ยนแปลงโลกโดยเทคโนโลยีที่มียู่ในกำมืออีกด้วย”
เมื่อมองไปในอนาคต เคทและแคทเทอรีนเตรียมที่จะนำทักษะที่ได้รับจากโครงการ Samsung Solve for Tomorrow ไปประยุกต์ใช้กับการวิจัยและการดำเนินธุรกิจในอนาคตของตน “ในอนาคต เราหวังว่าจะนำทักษะด้านข้อเสนอผลงาน การปฏิบัติงานจริง และการบรรยายสรุปที่เราได้รับจากโครงการ Samsung Solve for Tomorrow ไปประยุกต์ใช้กับการวิจัยและการดำเนินธุรกิจ” พวกเธอกล่าว นอกจากนี้ พวกเธอยังคาดหวังที่จะได้เห็นแผ่นซับน้ำมันที่พวกเขาพัฒนาขึ้นมากลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถจำหน่ายในวงกว้างได้ในสักวันหนึ่งด้วย
แบ่งปันเรื่องราวนี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่สร้างวิธีแก้ปัญหาสำหรับสังคม