-
ขนขวายหาสมดุลในโลกไอที
ผู้จบจากโครงการ SSAFY ได้งานทำเป็นนักพัฒนา
-
ช่วยกันทำให้โรงเรียนปลอดภัย
นักเรียนมัธยมปลายในสหรัฐฯ พัฒนาระบบจำแนกเสียงปืนและระบบอพยพ
-
Samsung Smart School เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ
การให้การศึกษาในสาขาดิจิตอลสำหรับนักเรียนและครูในอินเดีย
ขนขวายหาสมดุลในโลกไอที

แผนงาน Samsung SW Academy for Youth (SSAFY) คือส่วนหนึ่งของโครงการ CSR จาก Samsung ที่ต้องการช่วยเหลือคนรุ่นหนุ่มสาวให้มีความโดดเด่นในตลาดงานโดยการจัดสรรการสอนซอฟต์แวร์ขั้นสูงและทักษะในการหางานทำ โดยในทุกปี แผนงาน SSAFY ส่งเสริมเหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์โดยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทักษะที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงผ่านการฝึกอบรมซอฟต์แวร์อย่างเข้มข้นและโครงการที่มีโอกาสลงมือปฏิบัติจริง

ตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2018 มีผู้ผ่านการฝึกอบรมหกรอบจากแผนงาน SSAFY ไปแล้ว 3,678 คน โดยมีบริษัท 730 แห่งรับผู้จบการศึกษา 2,770 คนเข้าทำงาน คิดเป็นอัตราการจ้างงานที่ร้อยละ 75

คิมฮยุนจีจบการศึกษาจาก SSAFY เป็นรุ่นที่สี่หลังจากที่เธอจบการเรียนในสาขาสังคมวิทยาเมืองจากมหาวิทยาลัย เธอฝันที่จะเป็นที่ปรึกษาธุรกิจด้านไอที ดังนั้นเธอจึงอยากขยายขอบเขตทักษะด้านไอทีของตนก่อน “SSAFY คือสถานที่ช่วยให้ฉันได้เกิดใหม่เป็น ‘ฮยุนจี 2.0’” คิมฮยุนจีกล่าว โดยก่อนที่เธอจะเข้าร่วมโครงการนี้ เธอไม่มีภูมิหลังด้านไอทีมาก่อนเลย การเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรการเขียนโค้ดและหลักสูตรด้านเทคโนโลยีต่างๆ รวมทั้งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเพื่อนร่วมรุ่นและที่ครูที่ปรึกษา เธอจึงมีโอกาสเรียนรู้แนวโน้มไอทีล่าสุด ได้รับองค์ความรู้ใหม่ๆ และความสนใจในสาขาไอทีก็ขยายเพิ่มมากขึ้น
หลังจากผ่านการฝึกอบรมอย่างหนักจาก SSAFY คิมฮยุนจีสามารถเข้าทำงานเป็นนักวางแผนธุรกิจ DT (Digital Transformation) ในบริษัทให้คำปรึกษาด้านไอทีชั้นนำแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ “เนื่องจากฉันคุ้นเคยกับภาษาของโลกไอทีจาก SSAFY ฉันจึงสามารถทำตัวกลมกลืนในบริษัทได้ แม้ว่าฉันเป็นน้องใหม่ในวงการก็ตาม” คิมฮยุนจีกล่าว “ที่จริงตอนที่มีโอกาสประชุมหารือเกี่ยวกับระบบไอทีร่วมกับนักพัฒนาเป็นครั้งแรก ฉันรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่มีโอกาสเห็นและได้ยินสิ่งที่เคยเรียนรู้และสัมผัสที่ SSAFY ถูกนำมาใช้ในชีวิตจริง ต้องขอขอบคุณ SSAFY เป็นอย่างมากที่ทำให้ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาไอที”

โจควานเฮียมคือผู้จบการศึกษารุ่นที่ห้าจาก SSAFY เขาเคยเรียนวิชาเอกสาขาคอมพิวเตอร์ศาสตร์ แต่มาเข้าร่วมกับ SSAFY เพื่อขัดเกลาประสบการณ์การทำโครงการระดับปริญญาตรีและเพิ่มความมั่นใจความรู้ในสาขานี้ “SSAFY ช่วยไขข้อจำกัดและความกังวลในการลงมือปฏิบัติงานจริงที่ผมรู้สึกขณะที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย โครงการนี้มีประโยชน์อย่างมากในแง่ของการสร้างความสามารถระดับการทำงานจริง เนื่องจากการทำโครงการต่างๆ เหมือนกับที่ทำอยู่ในโลกการทำงานจริง เรายังใช้เครื่องมืออย่าง Git และ Jira ที่บริษัทต่างๆ ใช้อยู่จริงๆ ด้วย” โจควานเฮียมกล่าว
ความชื่นชอบที่มีต่อซอฟต์แวร์ของโจควานเฮียมและหลักสูตรการฝึกอบรมภาคปฏิบัติของ SSAFY ช่วยให้เขาได้งานทำเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัท Samsung ในตอนนี้เขากำลังพัฒนาบริการแนะนำส่วนบุคคลที่ทำงานบนคลาวด์อยู่ งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของทีม Samsung Electronics SR เขาให้ความเห็นว่า “หากคุณยังไม่พอใจกับการศึกษาซอฟต์แวร์ระดับปริญญาตรี แม้ว่าคุณได้เรียนมาแล้วสี่ปีเหมือนผมก็ตาม การลงทุนกับ SSAFY อีกแค่หนึ่งปีจะสร้างผลลัพธ์ที่คุณคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน”
ช่วยกันทำให้โรงเรียนปลอดภัย

ในปี 2021 โรงเรียนมัธยมปลายพอร์เตอร์จัดงานปาร์ตีเต้นรำเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีจนกระทั่งมีข่าวลือว่าการมีการยิงกันเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย บรรยากาศของความตื่นเต้นเปลี่ยนเป็นความวิตกจริตและความวุ่นวายหลังจากที่มีการเผยแพร่ข่าวลือออกไปอย่างรวดเร็ว

“ฉันไม่อยากให้เพื่อนๆ ตกใจและร้องไห้เพราะสัญญาณเตือนที่ผิดพลาดอีก” โจแอนกล่าว นักเรียนห้าคนรวมทั้งโจแอนหวังว่าจะสร้างความมั่นใจว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก

โครงการ Samsung Solve for Tomorrow ช่วยทำให้ความหวังของนักเรียนกลุ่มนี้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น โจแอนและเพื่อนๆ ต่างมาระดมความคิดว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถบรรเทาความตกใจ รวมทั้งออกแบบเมทริกซ์ที่วิเคราะห์แนวคิดที่ได้มาว่าแนวคิดใดที่สร้างผลกระทบต่อระบบรักษาความปลอดภัย การนำไปใช้งานจริง ความคุ้มค่า และสภาพแวดล้อมมากที่สุด ผลพวงที่ตามมาก็คือพวกเขาพัฒนาระบบแจ้งเตือนและอพยพที่ชื่อ Pathfinder ขึ้นมา
Pathfinder จะช่วยนำทางเหล่านักเรียนในโรงเรียนไปยังพื้นที่ปลอดภัย ลดการตัดสินใจที่ก่อให้เกิดความเครียด เร่งรีบ และไม่มีเหตุผลโดยอิงกับตำแหน่งที่น่าจะมีภัยคุกคามต่อเหล่านักเรียน “ทีมของเราสร้างระบบต้นแบบขึ้นมาโดยใช้วัสดุ STEM อาทิเบรดบอร์ด ไฟ LED นีโอพิกเซล ระบบเสียง และเซนเซอร์แสง” ลีน่ากล่าว

นักเรียนกลุ่มนี้เดินหน้าพัฒนาระบบต้นแบบต่อและมีการยืนยันเสถียรภาพของระบบโดยการทดสอบของผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนั้นพวกเขายังพยายามสร้างความมั่นใจว่าระบบสามารถใช้งานได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน ไปพร้อมๆ กับการแสดงทิศทางอพยพอย่างชัดเจนรวมทั้งระยะห่างจากอันตรายโดยการใช้สีต่างๆ
ความโดดเด่นในแง่ของความสามารถในการนำไปใช้งานได้จริงและแนวคิดริเริ่ม ดังนั้นโครงการ Pathfinder จึงได้รับรางวัลจากโครงการ Solve for Tomorrow US เมื่อเดือนเมษายน 2022 “เราติดต่อผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย พวกเขาเชื่อว่า Pathfinder ไม่เพียงแต่สามารถนำไปใช้งานในโรงเรียนได้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสถานที่ต่างๆ อีกด้วย” ริเวอร์กล่าว “เราหวังว่า Pathfinder จะสามารถป้องกันความวุ่นวายในสถานที่และเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ได้”
แบ่งปันเรื่องราวนี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่สร้างวิธีแก้ปัญหาสำหรับสังคม
Samsung Smart School เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ

Samsung Smart School คือแผนงานให้การศึกษาสำหรับประชากรโลกจาก Samsung โดยตั้งเป้าไปที่การสร้างผู้นำรุ่นเยาว์สำหรับอนาคตผ่านการส่งเสริมการเรียนรู้เนื้อหาด้านดิจิตอลสำหรับเหล่านักเรียน แผนงานนี้เริ่มต้นในโรงเรียน 10 แห่งในเครือของ Jawahar Navodaya Vidyalaya (JNV) ของอินเดีย รวมทั้งที่ฟาริดาบาดด้วย นักเรียนของ JNV Faridabad จะสามารถเข้าถึงโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิตอลและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับการศึกษาของตนเอง

Samsung ร่วมกับเหล่าครูเปิดประตูบานใหม่ๆ สำหรับเด็กนักเรียนด้อยโอกาสในอินเดีย โดยการแปลงสภาพการเรียนรู้ของเหล่าเด็กๆ

อนิตา กุปตาคือครูของโรงเรียน JNV Faridabad ผู้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิตอลที่เกิดขึ้นในโรงเรียนนับตั้งแต่มีการสร้างชั้นเรียน Samsung Smart Class ขึ้นมา “ก่อนหน้านี้เรามีคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้ในโรงเรียนแค่ 5-6 เครื่อง โดยไม่มีเทคโนโลยีอื่นๆ อีก Smart Class ที่ Samsung จัดสรรมาให้เราถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง”
“เป้าหมายของ Smart School ในอินเดียคือการลดช่องว่างในโลกดิจิตอล” ครูกุปตาเสริม “เหล่านักเรียนต่างมีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากเรียนรู้ทักษะด้านดิจิตอลตามโครงการ Samsung Smart School ฉันต้องขอบคุณ Samsung เป็นอย่างมากที่ทำให้โครงการนี้เป็นไปได้จนเราสามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนของเรา” โครงสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ระบบดิจิตอลและเนื้อหาให้การศึกษาแบบหลอมรวมกับเนื้อหารุ่นล่าสุดของ Smart School ตั้งเป้าที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับคนรุ่นต่อไปเพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าถึงศักยภาพของตนอย่างเต็มที่และเข้าใกล้ความฝันของตนอีกขั้นหนึ่ง

นอกจากนั้นโครงการ Samsung Smart School ยังมีการจัดการฝึกอบรมครูเป็นประจำอีกด้วย ครูกุปตาเน้นว่า “การสื่อสารอย่างต่อเนื่องร่วมกับเหล่าครูที่ Samsung จัดสรรมาให้ช่วยแก้ปัญหาความยุ่งยากทางเทคนิคที่อาจเกิดขึ้นในชั้นเรียน แถมยังช่วยปรับปรุงคุณภาพการให้การศึกษาสำหรับเหล่านักเรียนอีกด้วย”
โครงการ Samsung Smart School จัดสรรอุปกรณ์หลากชนิดที่ครูและนักเรียนสามารถนำไปใช้ได้ ห้องเรียนต่างๆ มีการติดตั้งกระดานดำดิจิตอลอินเตอร์แอคทีฟ Samsung Flip และเครื่อง Galaxy Tabs รวมทั้งอุปกรณ์พื้นฐานอย่างพรินเตอร์ พีซีและอุปกรณ์สำรองไฟอีกด้วย “อุปกรณ์ทั้งหมดมีประโยชน์อย่างมาก แต่อุปกรณ์โปรดของฉันคือ Flip ที่ช่วยให้เหล่านักเรียนได้รับประสบการณ์แบบเห็นภาพ” ครูกุปตากล่าว “เราสามารถซูมเข้าและออกและอธิบายสิ่งต่างๆ เพิ่มเติม แถมสิ่งที่ฉันเขียนบนกระดานยังสามารถบันทึกเก็บไว้ได้ด้วย”
ความตั้งใจของ Samsung ที่จะ ‘ส่งเสริมนักเรียน’ ผ่านโครงการ Smart School ประสบความสำเร็จโดยดูได้จากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น ครูกุปตากล่าวว่า “โอกาสในการเรียนรู้และเติบโตที่เท่าเทียมกันเป็นสิ่งที่เหล่านักเรียนต้องการ ฉันหวังว่าจะมีนักเรียนในแถบชนบทจำนวนมากขึ้นที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ Samsung Smart School และได้รับการศึกษาที่เหมาะสมในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าเดิม”