เด็กหญิงชาวเบลีซสร้างอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยล้ำสมัย

Students and hosts celebrating the competition

นักเรียนหญิงสี่คนจากเบลีซที่ประกอบด้วย แอมเบอร์ ไรท์ เอเลียร์ มาริน ไอเรียน โจนส์ และออสวานิ มากานา สร้างความฮือฮาบนเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ เมื่อพวกเขาลงแข่งขันในโครงการ Samsung Solve for Tomorrow 2023 ที่ประเทศปานามา การแข่งขันประจำปีนี้มีการรวบรวมนักเรียนที่มีความสามารถจากทั่วละตินอเมริกาและแคริบเบียน โดยท้าทายให้เหล่านักเรียนพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาในรูปของนวัตกรรมใหม่เพื่อแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง

ปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่เบลีซเข้าร่วมการแข่งขันในกลุ่มละตินอเมริกาจนทำให้ชัยชนะของพวกเขาน่าทึ่งยิ่งขึ้นไปอีก เด็กผู้หญิงทั้งสี่คนฉายความโดดเด่นท่ามกลางผู้เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 9,000 คนจาก 100 โรงเรียน นั่นแสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดและความทุ่มเทของพวกเธอได้เป็นอย่างดี

การเดินทางและผลงานของพวกเธอที่ทำให้ได้รับรางวัลสูงสุดเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่มีความฝันอยากจะแก้ปัญหาในทุกแห่งของโลก มาอ่านต่อไปนี้ดูว่าพวกเธอเผชิญกับความท้าทายใดบ้าง และผลงานของพวกเอสร้างความแตกต่างได้อย่างไรกันดีกว่า

Students presenting their projects
โซลูชั่นอันโดดเด่นที่ช่วยเหลือผู้มีความบกพร่องในการมองเห็น

ทีมเบลีซซึ่งเป็นตัวแทนของโรงเรียนมัธยมพาลลอตติมีความโดดเด่นเมื่อเทียบกับทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันอีกหลายพันทีม ปมเด่นของพวกเธอคือ ความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกรวมทั้งรู้สึกแรงกล้าที่มีต่อชุมชนของพวกเขาเอง ความท้าทายดังกล่าวคือความบกพร่องในการมองเห็น ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่าผู้คนทั่วโลกประมาณ 2.2 พันล้านคนมีความบกพร่องในการมองเห็นบางรูปแบบ โดย 1 พันล้านคนประสบปัญหาการสูญเสียการมองเห็นในระยะใกล้หรือไกล ส่วนในประเทศเบลีซ ข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับความหนาแน่นของความบกพร่องในการมองเห็นมีจำกัด แต่การตั้งข้อสังเกตของทีมนี้ก็บ่งชี้ถึงความท้าทายที่สำคัญอยู่ดี

“เราสังเกตว่าผู้ที่มีความบกพร่องในการมองเห็นต้องต่อสู้ดิ้นรนกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน” แอมเบอร์กล่าว “โครงสร้างพื้นฐานของเราไม่ตอบสนองต่อความต้องการของบุคคลเหล่านี้ และความช่วยเหลือที่มีให้ก็มีอยู่อย่างจำกัด” ผลของแรงผลักดันที่ได้มาจากการตั้งข้อสังเกตนี้และความต้องการที่จะสร้างความแตกต่าง ทีมงานนี้จึงเริ่มต้นการเดินทางนวัตกรรมของตนเอง และจบลงจนกลายผลงานล้ำยุคอย่างโครงการ SMARTZ

อุปกรณ์แสนฉลาดนี้เข้ามาแก้ไขข้อกังวลสำคัญของผู้ที่มีความบกพร่องในการมองเห็นได้ อาทิเช่น อาการบาดเจ็บที่ศีรษะและการหกล้มเป็นต้น อุปกรณ์ SMARTZ เป็นโซลูชันแบบสวมใส่สองส่วน โดยมอบเกราะป้องกันหลายชั้นให้ผู้ใช้เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ อุปกรณ์ที่ติดเอาไว้กับไม้เท้าจะตรวจจับวัตถุภายในรัศมี 3-5 ฟุต ส่วนแว่นตาอัจฉริยะจะคอยระบุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในระดับศีรษะ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่ใบหน้าหรือศีรษะ

เหนือกว่าชัยชนะ สร้างแรงบันดาลใจสำหรับอนาคต

ความทุ่มเทและไหวพริบของทีมเบลีซไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขาได้รับตำแหน่งอันดับหนึ่งเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเขาได้รับความเลื่อมใสและเสียงชื่นชมจากชุมชนทั่วโลกอีกด้วย เรื่องราวของพวกเขาก้าวข้ามขอบเขตของการแข่งขันจนกลายเป็นข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพอันทรงพลังของเยาวชนชาวเบลีซ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการกับความท้าทายในท้องถิ่นด้วยโซลูชันเชิงนวัตกรรมที่สามารถส่งผลกระทบในระดับโลกได้ด้วย

“ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นหลักชัยสำคัญสำหรับเหล่านักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์ผู้มุ่งมั่นในเบลีซ และเราหวังว่าชัยชนะครังนี้จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ หันมาไล่ตามความฝันของพวกเขาในสาขา STEM มากขึ้น” หนึ่งในสมาชิกของทีมนี้กล่าว

การเดินทางที่แสนน่าทึ่งของทีมเบลีซนี้คือเครื่องเตือนใจอันทรงพลังว่านวัตกรรมสามารถเบ่งบานได้ทุกแห่ง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการผสมผสานระหว่างความหลงใหล ความทุ่มเท และความมีไหวพริบ เรื่องราวของพวกเขาคือสิ่งที่เรียกร้องให้เราหันมาตัดสินใจลงมือทำบางอย่าง รวมทั้งกระตุ้นให้คนหนุ่มสาวทั่วโลกยอมรับศักยภาพของตนเอง และกลายเป็นผู้แก้ปัญหาและผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงแห่งอนาคต

แบ่งปันเรื่องราวนี้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ค้นพบความหลงใหลของตนเอง

เยาวชนฟิลิปปินส์จุดประกายฝันด้วยแนวคิด STEM

ในปี 2023 ประเทศฟิลิปปินส์เริ่มหันมาจุดประกายฝันของเหล่าเยาวชนที่เป็นความหวังของอนาคตด้วยการเปิดตัวการแข่งขัน Samsung Solve for Tomorrow เป็นครั้งแรก โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการศึกษา STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) ของประเทศ เนื่องจากมีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายส่งผลงานเข้าแข่งขันในมากกว่า 200 โครงการจากทั่วประเทศ

การแข่งขันดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทของเหล่านักเรียนชาวฟิลิปปินส์ในการหาทางนำเทคโนโลยีมาใช้บวกกับความคิดสร้างสรรค์ที่ต้องการจัดการกับปัญหาสังคมอย่างเร่งด่วน ผู้เข้าร่วมการแข่งขันได้เน้นย้ำให้เห็นถึงบทบาทของเวทีแห่งนี้ในการส่งเสริมนวัตกรรมและการทำงานร่วมกัน พวกเขากล่าวว่า "โครงการ Solve for Tomorrow ช่วยให้เราปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาโซลูชันที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนของเราและที่อื่นๆ ด้วย"

การแข่งขันที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกนี้มีทีมนำเสนอโซลูชันดิจิตอลที่หลากหลายโดยมีเป้าหมายเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วน

Announcing the second place winners
เสริมศักยภาพให้กับชาวฟิลิปปินส์

นักเรียนมัธยมปลายจากวิทยาเขตคากายานแวลเลย์ของโรงเรียนมัธยมปลายฟิลิปปินส์ซายน์หาทางยกระดับความปลอดภัยในครัวเรือนของประเทศ โครงการของพวกเขามีชื่อว่า "Intellimeter: A Smart Electric Management System with App Interface" มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาความกังวลที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้พลังงานและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับอัตราการเกิดเพลิงไหม้บ้านที่น่าตกใจซึ่งเกิดจากการเสียบปลั๊กอุปกรณ์ทิ้งไว้โดยไม่มีคนดูแล

“Intellimeter คือการบริหารจัดการระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบอัจฉริยะที่ผสานการทำงานร่วมกับแอปที่ใช้งานง่าย” อีธาน มาร์ก แอล บาวทิสต้า สมาชิกคนหนึ่งในทีมอธิบาย “ระบบสามารถทำงานร่วมกับแผงจ่ายไฟของอาคารต่างๆ ได้อย่างราบรื่น จากนั้นเมื่อเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าแล้ว ระบบเอไอในตัวจะแนะนำวิธีประหยัดไฟฟ้าให้”

นักเรียนทีมนี้ได้แสดงความขอบคุณต่อโครงการ Solve for Tomorrow ว่า “การเดินทางตั้งแต่การระดมความคิดไปจนถึงการสร้างระบบต้นแบบคือประสบการณ์การเรียนรู้ที่ทรงคุณค่า เราต้องการพัฒนาโครงการนี้ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพื่อทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่กว้างขวางกว่านี้”

โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่ออนาคตที่สดใสกว่าเดิม

นักเรียนกลุ่มอื่นๆ จากทั่วประเทศนำเสนอแนวทางสร้างสรรค์เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทีมงานจากเกาะมินโดโรหาทางจัดการกับปัญหาขยะพลาสติกและการรั่วไหลของน้ำมันผ่านโครงการที่ชื่อ "O.A.S.I.S.: ระบบกำจัดน้ำมันและขยะทางการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีถังกรองพลังงานแสงอาทิตย์แบบบูรณาการ" ด้วยตระหนักถึงความยากลำบากที่ชาวบ้านและชาวประมงต้องเผชิญ พวกเขาจึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบกรองที่กำจัดน้ำมันและไมโครพลาสติกจากมหาสมุทร ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่สะอาดขึ้นสำหรับชุมชนที่ต้องพึ่งพาทรัพยากรทางทะเล

สิ่งที่คล้ายคลึงกันคือกลุ่มนักเรียนจากเมืองนูว่าวิสคายาได้เปิดตัวโครงการ "TomPost: ระบบแปรรูปปุ๋ยหมักจากขยะทางการเกษตร" เพื่อรับมือกับปัญหาของขยะทางการเกษตร ด้วยการเปลี่ยนเศษมะเขือเทศและผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลพลอยได้อื่นๆ จากฟาร์มให้เป็นปุ๋ยหมักที่มีคุณค่า โครงการนี้ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาด้านการจัดการขยะเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เกษตรกรลดการขาดทุนและเพิ่มผลกำไรสูงสุดอีกด้วย

แม้จะใช้แนวทางที่แตกต่างกันออกไป แต่นักเรียนทุกทีมต่างมีความมุ่งมั่นร่วมกันอย่างแรงกล้าในการทำความเข้าใจความต้องการของชุมชนและสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิม พวกเขาเน้นย้ำถึงพลังของการเปลี่ยนแปลงที่ได้จากความคิดสร้างสรรค์เพื่อที่จะนำไปใช้ส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อมและการฟื้นตัวของชุมชน "ตลอดการเวลาที่เราเข้าร่วมโครงการ Solve for Tomorrow " พวกเขาเล่า "เรามีโอกาสกระชับความสัมพันธ์ของเราร่วมกับทั้งสังคมและทีมของเรา โดยการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน หากคุณมีความชื่นชอบแบบเดียวกันนี้ เราขอแนะนำให้คุณมาเดินทางร่วมกับโครงการ Solve for Tomorrow กันเถอะ”

แบ่งปันเรื่องราวนี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่สร้างวิธีแก้ปัญหาสำหรับสังคม

นักประดิษฐ์เทคโนโลยีเพื่ออนาคตของอินโดนีเซีย

อินโดนีเซียจะเผชิญกับการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่มีทักษะเกือบเก้าล้านคนภายในปี 2030 ช่องว่างที่สำคัญนี้คุกคามต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศ ดังนั้นเพื่อลดช่องว่างนี้ โครงการ Samsung Innovation Campus ได้กลายเป็นแนวทางแก้ปัญหาที่ทรงพลัง เพื่อเตรียมคนอินโดนีเซียรุ่นต่อไปให้มีทักษะที่จำเป็นรองรับการเติบโตในโลกดิจิตอลของอนาคต

โครงการ Samsung Innovation Campus ไม่ใช่แค่การนำเสนอความรู้ทางทฤษฎีเท่านั้น เรามีหลักสูตรที่ครอบคลุมที่มุ่งเน้นไปที่การฝึกอบรมภาคปฏิบัติด้วย เพื่อให้แน่ใจว่านักเรียนจะได้รับทักษะที่จำเป็นเพื่อความเป็นเลิศในโลกของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หลักสูตรที่เข้มข้นด้านการเขียนโค้ดและการเขียนโปรแกรมจะช่วยให้เยาวชนชาวอินโดนีเซียได้รับรากฐานที่มั่นคงในด้านเทคโนโลยีพื้นฐาน

โครงการนี้ช่วยเสริมศักยภาพให้เหล่าเยาวชนไม่เพียงแต่เข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อนเท่านั้น แต่ยังสามารถแปลงแนวคิดเหล่านี้เป็นโซลูชั่นที่ใช้งานได้อีกด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมให้พวกเขาเป็นผู้นำในอนาคตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

จากห้องเรียนมุ่งสู่นวัตกรรม

ผู้เข้าร่วมโครงการประจำปี 2023 ในอินโดนีเซียเป็นตัวอย่างที่สำคัญของของผู้ที่สามารถปรับตัวได้ดีและความอุตสาหะ แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ มากมาย อาทิเช่น ไฟฟ้าดับบ่อยครั้งและความยากลำบากในการจัดหาวัตถุดิบเป็นต้น เหล่าเด็กนักเรียนต่างน้อมรับโครงการนี้ด้วยความเต็มใจ หลังจากเรียนรู้อย่างทุ่มเทมาหลายเดือน ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะนำความรู้และทักษะที่ได้รับมาใหม่ไปปฏิบัติจริง

โครงการนี้ปลูกฝังให้พวกเด็กๆ มีแนวคิดที่ต้องการเอาชนะ กระตุ้นให้พวกเขาเผชิญหน้ากับความท้าทายตรงหน้า ค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ และใช้ศักยภาพของตนอย่างเต็มที่ การเข้าร่วมโครงการครั้งนี้เสริมศักยภาพความเป็นเลิศให้พวกเขาและวางรากฐานสำหรับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าในอนาคต

โลกแห่งความเป็นไปได้ที่กำลังรออยู่

พี่เลี้ยงที่เป็นพนักงานของ Samsung และครูประจำโครงการโดยตรงต่างให้การสนับสนุนเหล่าเด็กๆ ด้วยความตั้งใจจริงจนส่งผลทำทีมอื่นๆ จำนวนมากต่างประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน พวกเด็กๆ ได้รับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับรากฐานขององค์ความรู้ด้าน STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์) ดังที่สมาชิกในทีมที่ชนะคนหนึ่งกล่าวไว้ว่า “โครงการ Samsung Innovation Campus ช่วยเสริมศักยภาพให้เราสามารถเอาชนะข้อจำกัดต่างๆ และเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง”

เราเห็นวิธีการแก้ปัญหาที่หลากหลายและเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ จากทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันในการจัดโครงการในครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นทักษะที่เพิ่งค้นพบและความสามารถในการแก้ปัญหา ทีมที่มีชื่อว่า Eaterstolar ที่เป็นผู้ชนะอันดับหนึ่งได้พัฒนาโซลูชัน Smart PLTS ซึ่งเป็นระบบที่ตรวจสอบและสลับแหล่งพลังงานภายในบ้านระหว่างตัวเลือกพลังงานแสงอาทิตย์และระบบไฟบ้านปกติ ทีมอื่นๆ นำเสนอแนวคิดที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน อาทิเช่น โซลูชันถังขยะอัจฉริยะที่ทำการคัดแยกขยะ และโซลูชันดิจิตอลที่ตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้นในห้องเป็นต้น

ประสบการการเข้าร่วมโครงการไม่เพียงแต่ช่วยให้เหล่านักเรียนมีทักษะด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงยังช่วยให้พวกเด็กๆ มีความมั่นใจและความสามารถในการทำความเข้าใจ ปรับตัว และใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่อีกด้วย โครงการ Samsung Innovation Campus ช่วยให้เหล่าเด็กๆ กลายเป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และผู้นำรุ่นต่อไป ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดอนาคตที่สดใสสำหรับตนเองและอินโดนีเซีย

แบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับผู้นำในอนาคตบนเส้นทางสู่ความฝันของพวกเขา

แนวทางของเรา

  • เพิ่มขีดความสามารถให้กับคนรุ่นใหม่
    ให้บรรลุศักยภาพสูงสุดของพวกเขา
  • พร้อมบุกเบิกการเปลี่ยนแปลง
  • ทางสังคมในเชิงบวก
เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาชุมชนโลกด้วยแนวคิดเพื่อการเปลี่ยนแปลง และจะอุทิศทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือสังคมโลกที่ดีขึ้น พร้อมทั้งดำเนินการพัฒนาและออกแบบนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อความต้องการของประชากรโลกอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง

เราเชื่อในศักยภาพของคนรุ่นใหม่

คนเป็นหัวใจสำคัญของทุกเรื่องที่เราทำ เราเชื่อว่าทุกคนจะต้องได้รับประโยชน์จากคำมั่นสัญญาที่ว่า เทคโนโลยีจะช่วยพัฒนาและกำหนดทิศทางของโลก และคนรุ่นใหม่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างมีจุดมุ่งหมายผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ

เราค้นหาความต้องการพิเศษด้านการศึกษาจากทั่วโลก

เพราะการเรียนรู้เป็นประสบการณ์ส่วนตัว เราจึงมุ่งมั่นที่จะใช้ทรัพยากรของเราเพื่อมอบหลักสูตรการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลก

เราให้ความสำคัญกับความร่วมมือ

เราได้สัมผัสถึงคุณค่าของการทำงานร่วมกันโดยตรงและผลกระทบที่เรามีต่อการทำงานร่วมกันเมื่อเรามุ่งมั่นที่จะนำไอเดียที่สามารถนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหาสังคมและเอาชนะความท้าทาย

ข่าวสาร

read more